เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์ :

09.00 - 18.00 น.

เราช่วยคุณได้

0926295954

Travel License : 11/05662

หน้าแรก

/

ข้อมูลท่องเที่ยว

/

เที่ยวญี่ปุ่น

แฟนเดย์ เเฟนกันเเค่วันเดียว เรื่องย่อ

แฟนเดย์ เเฟนกันเเค่วันเดียว เรื่องย่อ

585

แฟนเดย์ เเฟนกันเเค่วันเดียว เรื่องย่อ หนังเปิดตัวร์ค่าย GDH ‘เด่นชัย’ (เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) เจ้าหน้าที่ไอทีสุดเนิร์ดประจำออฟฟิศวัย 30 ผู้จะมีตัวตนในสายตาพนักงาน คนอื่น แค่เวลาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เสีย ในชั่วโมงทำงานที่แสนเร่งรีบไม่มีใครสนใจ แม้แตจ่ะจำชื่อของเด่นชัย จนเขาแอบน้อยใจอยู่บ่อยๆ จนกระทั่งวันที่เขาได้ไปซ่อมปริ้นเตอร์ให้ ‘นุ้ย’ (มิว นิษฐา จิรยั่งยืน) มาร์เก็ตติ้งสาวคนสวย ผู้จดจำชื่อจริงของเขาได้ เด่นชัยตกหลุมรักความน่ารักและจริงใจของนุ้ยที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีตัวตนขึ้นมา แต่ก็ทำได้เพียงเฝ้าเก็บรายละเอียดและดูแลเธออยู่ห่างๆ เพราะรู้ดีว่าหมาอย่างเขาคงได้แค่แหงนมองเครื่องบิน แต่แล้ว เมื่อบริษัทของเด่นชัย พาพนักงานไปเที่ยวเอาท์ติ้งยัง “คิโรโระ” สกีรีสอร์ทที่ฮอกไกโด เด่นชัยได้ขอพรกับ ระฆังแห่งความรักของคิโรโระ รีสอร์ท ให้เขาได้เป็นแฟนกับนุ้ย แค่วันเดียวก็ยังดี โชคชะตาเล่นตลกเมื่อนุ้ย ประสบอุบัติเหตุจากสกีจนหมดสติ พอนุ้ยฟื้นก็กลับมีอาการ ‘โรคความจำเสื่อมชั่วคราว’ ที่เรียกกันว่าโรค TGA ซึ่งเป็นโรค ความจำเสื่อมที่จะมีอาการอยู่เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น… เด่นชัย คิดว่า นี่เป็นโอกาสเดียวที่คนอย่างเขาจะได้ใกล้ชิดกับ นุ้ย เขาตัดสินใจสวมรอยหลอกนุ้ย ว่า ทั้งสองเป็นแฟน กัน และอยู่เที่ยวต่อกันเพียงสองคน เด่นชัยตั้งใจว่าจะพานุ้ยไปเที่ยวในทุกๆที่ ที่เธออยากไปในฮอกไกโด ใช้เวลาสดุ พิเศษของเขากับเธอในฐานะแฟน แม้ว่ามันจะเป็นการเป็นแฟนกันเพียงแค่วันเดียวก็ตาม…

อุโมงค์สวน Kawashi Fuji Garden ฟุกุโอกะในญี่ปุ่นกับบรรยากาศอันแสนโรแมนติค

อุโมงค์สวน Kawashi Fuji Garden ฟุกุโอกะในญี่ปุ่นกับบรรยากาศอันแสนโรแมนติค

492

ทุกๆท่านเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นกันบ้างไหม แล้วเคยไปในช่วงที่เป็นเทศกาลฤดูใบไม้ผลิกันบ้างหรือเปล่า หากยังไม่เคยไปอยากจะแนะนำให้ลองไปดูแล้วจะรู้ว่าความสวยงามเหนือคำบรรยายมีจริงๆ และเมื่อคุณได้สัมผัสคุณแทบจะตกอยู่ในห้วงแห่งความฝันกันเลยทีเดียวเพราะความสวยงามของอุโมงค์ดอกไม้ที่มีสีม่วงและหลากหลายสีจะทำให้คุณแทบจะลืมโลกแห่งความเป็นจริงกันเลยทีเดียว ซึ่งหากไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นนั้น ส่วนใหญ่แล้วน่าจะไปกับทางบริษัททัวร์แต่บางคนก็จะไปกันเองแบบแบ็คแพ็คซึ่งหากไปกันเองจะทำให้เกิดความยุ่งยากมากขึ้นอีกหลากหลายประการทั้งในส่วนของการเตรียมตัวและในส่วนของเงินที่ต้องเตรียมไปบางทีอาจจะคำนวนได้ไม่ถูกต้อง จะทำให้การท่องเที่ยวกลายเป็นเรื่องหมดสนุกไปเลยทีเดียวละ แต่หากคุณได้เดินทางไปกับบริษัททัวร์แล้วปัญหาในเรื่องดังกล่าวจะหมดไปอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากทางบริษัททัวร์ได้ดำเนินการเตรียมให้คุณหมดแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ที่พัก ร้านอาหาร ร้านของฝาก ของที่ระลึก การบรรยายให้ความรู้ตามสถานที่ต่างๆ อีกทั้งหากมีปัญหาในการสื่อสารยังคอยมีไกด์ที่ชำนาญภาษาญี่ปุ่นคอยให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี จึงทำให้การเดินทางไปญี่ปุ่นกลายเป็นเรื่องที่ไม่น่ามีปัญหาและทำให้การเดินทางจะกลายเป็นเรื่องน่าประทับใจไปเลย คราวนี้เรามาดูกันว่า อุโมงค์สวน Kawashi Fuji Garden ที่ฟุกุโอกะมีความสวยงามขนาดไหน สถานที่ท่องเที่ยวช่วงปลายเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤษภาคมโดยประวัติความเป็นมาของของสวนคาวาจิฟูจิการ์เด้นนั้นได้มีการเปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ.1977 ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่สวนดอกไม้ที่เป็นทางเดินยาว 80 เมตรและ 220 เมตร โดยจะออกดอกเบ่งบานในช่วงปลายเดือน เมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคมของแต่ละปี ซึ่งจะมีจุดเด่นอยู่ที่เมิ่อสิ้นสุดทางเดินจะมีต้นวิสทีเรียต้นใหญ่ยืนตระหง่านอยู่ทำให้เกิดความอลังการเว่อร์วังเหมือนตกอยู่ในโลกของความฝันในญี่ปุ่นและในส่วนของค่าเข้าชมตกอยู่ที่ประมาณ 150-1,000 เยน (แล้วแต่ช่วงฤดูกาล) และเมื่อดูกันจนอิ่มใจแล้วต่อมาก็ต้องอิ่มท้องซึ่งอาหารขึ้นชื่อของฟุกุโอกะก็คือ ซาซิมิปลาซาบะนั่นเองซึ่งเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาของที่นี่กันเลยทีเดียวหากใครไม่ได้ทานถือได้ว่ามาไม่ถึงที่ และอาหารอีกอย่างหนึ่งซึ่งเป็นของพื้นเมืองเลยก็ว่าได้คือ อาหารพื้นเมืองของที่นี่มีลักษณะทำมาจากสาหร่ายทะเลนำมานึ่งจนแข็งและนำมาตัดเป็นแผ่นและนำมาจิ้มกับน้ำจิ้มหลากหลายชนิดให้เลือกสรรยิ่งได้ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆแล้วจะให้สัมผัสที่แปลกไปอีกแบบเลยทีเดียว เมื่ออิ่มตาพร้อมกับอิ่มหนำแล้วก็ได้เวลาเข้าที่พักผ่อนอย่างสำราญกันแล้วแค่นี้ก็เป็นอันจบทริปญี่ปุ่นอันน่าประทับใจแล้ว

สวน baby blue eyes ในอิบารากิที่ญี่ปุ่นจะทำให้คุณคิดว่าอยู่ในนิยายลองมาดูกัน

สวน baby blue eyes ในอิบารากิที่ญี่ปุ่นจะทำให้คุณคิดว่าอยู่ในนิยายลองมาดูกัน

552

หลายต่อหลายท่านคงจะเคยไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นกันบ้างแล้ว แต่หลายคนที่ยังไม่ได้ไปอาจจะเคยได้ยินชื่อ สวน Baby blue eyes ว่ามีความสวยงามเป็นอย่างมากโดยเป็นดอกไม้ที่ออกตามช่วงฤดูกาลแถมยังเบ่งบานเต็มทุ่งเปรียบเสมือนอยู่ในโลกแห่งนิยายกันเลยก็ว่าได้ แล้วจะดีไหมถ้าหากได้ไปสัมผัสของจริงมากกว่าการจินตนาการซึ่งการไปญี่ปุ่นส่วนใหญ่แล้วหลายคนมักจะชอบไปแบบลุยเดี่ยว หรือไปกับเพื่อนแบบ 2 -3 คนแล้วไปลุยหาที่พักหรือโรงแรมเอาข้างหน้าแต่คราวนี้เราจะเปลี่ยนรูปแบบของการไปเที่ยวมาเป็นแบบไปเที่ยวกับบริษัททัวร์น่าจะดีกว่า ดีกว่ายังไงนะหรือ ดีตรงที่ว่าเราไม่ต้องไปเสี่ยงเจอกับสถานที่พักแบบที่ไม่ตรงกับตามที่ลงในโฆษณาหรือเสี่ยงกับร้านอาหารที่เราไม่รู้จักและแพงแสนแพง แถมการไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆบางแห่งถ้าไม่ได้ไปกับทัวร์เขาก็จะอนุญาตให้เข้าไปเนื่องจากต้องทำเรื่องเข้าเยี่ยมชมเพราะฉะนั้นแล้วการไปกับทัวร์จึงเหมาะสมกับการไปเที่ยวต่างประเทศมากกว่า คราวนี้เรามาดูกันว่าที่นี่มีดียังไง สวนBaby blue eyes ที่อิบารากิในญี่ปุ่นสวนนี้ส่วนใหญ่แล้วจะมีดอกไม้มากมายแล้วแต่ตามฤดูกาลต่างๆซึ่งดอกไม้แต่ละชนิดก็จะมีการเบ่งบานกันตามรอบต่างๆในส่วนของ Baby blue eyes นั้นจะมีการผลิดอกเบ่งบานในช่วงปลายเดือนเมษายน ถึงปลายเดือน พฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไม้ดังกล่าวกำลังผลิบานทำให้เวลาเดินไปบนพื้นแล้วเหมือนปูด้วยพรมสีฟ้าอ่อน ให้ความสวยงามเป็นอย่างยิ่งซึ่งดอกไม้ชนิดนี้เบ่งบานอยู่ในสวน Hitachi Seaside Park ในเมืองอิบารากิในญี่ปุ่นซึ่งมีดอกไม้นานพรรณผลิดอกออกผลเบ่งบานให้ทุกๆท่านได้ชื่นชมกับดอกไม้งามต่างๆนานาชนิดอีกด้วย และเมื่อได้เดินชมดอกไม้กันทั่วแล้วต่อไปก็คือการหาของกินนั่นเอง และใกล้ๆกันในสวนนี้มีไอศกรีมที่มีซอฟต์ครีมสีฟ้าอยู่ซึ่งเป็นสีเดียวกันกับดอกไม้เลย ซึ่งก็มีรสชาติดีอยู่เหมือนกัน และถัดออกมาใกล้ๆกันในส่วนของที่ใกล้กับชิงช้าจะเป็นสวนสนุกและมีขายไอศกรีมรสเลมอนและรสส้มซึ่งออกมาแนวเปรี้ยวหวานๆกลิ่นหอมดีเหมือนกัน น่าจะมาลิ้มลองรสชาติดู ราคาประมาณ 400 เยน และเมื่อออกมาจากสวนแล้วจะมีร้านเค้กอยู่หน้าสถานี katsuta ซึ่งจะมีเค้กนานาชนิดให้ลิ้มลองรวมไปถึงพายอีกนานาชนิดเช่นเดียวกันที่มีรสชาติหอมหวานน่าทานและที่สำคัญอร่อยมากซึ่งเมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลและวันสำคัญของญี่ปุ่นอีกด้วยเป็นอันจบการเที่ยวสวน baby blue eyes

ปราสาททองญี่ปุ่น ที่ต้องไปสักครั้งในชีวิตสวยงามแค่ไหนมาดูกัน

ปราสาททองญี่ปุ่น ที่ต้องไปสักครั้งในชีวิตสวยงามแค่ไหนมาดูกัน

607

ทุกท่านในที่นี้เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นกันมาบ้างหรือยัง แล้วส่วนใหญ่แล้วไปเที่ยวกับทัวร์หรือไปเที่ยวเองแบบBackpacker ซึ่งหากไปเที่ยวแบบ Backpacker จะต้องมีความจำเป็นในส่วนของการเตรียมตัวในเรื่องของการเตรียมสิ่งของการเตรียมเงินสำหรับการเดินทางรวมไปถึงการศึกษาเส้นทางโดยละเอียดลงลึกไปถึงว่าต้องใช้เส้นทางใดในการไปมาระหว่างเมืองแต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วกับการเดินทางไปญี่ปุ่นโดยไปกับบริษัททัวร์ปัญหาต่างๆเหล่านั้นก็จะหมดไปและสิ่งหนึ่งที่ทัวร์มีให้คือการบริการคอยให้คำแนะนำตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งบางสถานที่เราอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีของทางประเทศของเขาซึ่งอาจจะทำให้เราทำอะไรผิดพลาดไปได้ และบางสถานที่ที่เราเองก็ไม่สามารถเข้าไปได้แต่ทางบริษัททัวร์สามารถทำเรื่องเข้าไปเยี่ยมชมได้เป็นกรณีพิเศษอย่าง การไปปราสาททองที่ถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิตให้ได้เนื่องด้วยความสวยงามของสถานที่และความสำคัญของสถานที่ดังกล่าว คราวนี้เรามาดูกันว่าส่วนใหญ่แล้วบริษัททัวร์จะมีการแยกการโปรแกรมสำหรับการเข้าเยี่ยมชมตามสถานที่แต่ละแห่ง แต่ละโปรแกรมทัวร์ก็จะมีให้ไม่เหมือนกันซึ่งหากทางลูกค้ามีความประสงค์ในการเข้าชมในสถานที่ใดก็ต้องเลือกตามโปรแกรมที่ได้กำหนดเอาไว้ให้ และจะมีการบรรยายถึงความสำคัญของแต่ละสถานที่ ซึ่งในที่นี้ปราสาททองญี่ปุ่นได้มีการบ่งบอกถึงลักษณะของความสำคัญของปราสาทไว้ว่าเป็นสถานที่ที่สร้างโดยโชกุน อาชิคางะ โยชิมิสึ เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจของทางโชกุนแต่ต่อมาลูกชายของท่านได้ปรับเปลี่ยนเป็นวัด และต่อมาได้ถูกไฟไหม้ขึ้นจึงได้มีการบูรณะและปิดทองคำเปลวไว้ทั้งหลังเพื่อให้สะท้อนถึงความงามเวลาที่มองจากในน้ำนับได้ว่าเป็นสถานที่ที่ควรไปสำหรับการเก็บไว้ในความทรงจำเป็นอย่างยิ่ง และสิ่งที่สำคัญหลังจากที่เราไปเที่ยวกันแล้วกองทัพต้องเดินด้วยท้องใช่ไหม ส่วนใหญ่แล้วบริษัททัวร์มักจะเลือกร้านอาหารให้เราเรียบร้อยแล้วและร้านอาหารที่ไม่ไกลจากปราสาททองส่วนใหญ่แล้วจะเป็นร้านอาหารที่มีลักษณะการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่นกันตั้งแต่ทางเข้ากันเลยทีเดียว และอาหารที่เสริฟส่วนใหญ่แล้วจะมาเป็น Set ซึ่ง Set ยอดนิยมเห็นจะเป็น Tempura set ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องเป็นกุ้งทอดเทมปุระซึ่งการนำกุ้งมาทอดให้เหลืองและกรอบตามสไตล์ของที่นี่บวกกับน้ำซุปเต้าเจี้ยวและสาหร่ายยิ่งทำให้มีความอร่อยและหอมแบบไม่รู้ลืมกันเลยทีเดียว หลังจากได้ทานอาหารอิ่มหนำสำราญกันแล้วทางบริษัทก็อาจจะให้เดินเล่นตามอัธยาศัยก่อนเข้าที่พักซึ่งเป็นหลักเหมือนกันทุกทัวร์ แล้วจะรอช้าอยู่ทำไมเลือกทัวร์ไปญี่ปุ่นกันได้หรือยัง

วัฒนธรรมความเชื่อของญี่ปุ่นกับวัดอาซากุสะวัดแห่งความโชคดี

วัฒนธรรมความเชื่อของญี่ปุ่นกับวัดอาซากุสะวัดแห่งความโชคดี

529

การไปท่องเที่ยวตามประเทศต่างๆ หากเราไม่รู้หรือไม่ทราบเกี่ยวกับวัฒนธรรมหรือความหมายการกระทำบางอย่างของคนแต่ละประเทศก็จะทำให้เราปฎิบัติได้แบบผิดธรรมเนียม หรือไม่ถูกต้องและอาจะเป็นที่จับตามองของคนในพื้นที่หรือในท้องถิ่นนั้นๆก็เป็นได้ ฉะนั้นแล้วการไปท่องเที่ยวก็เช่นเดียวกันกับการไปเยี่ยมบ้านแต่ละบ้านหากเราปฎิบัติไม่ถูกต้องตามธรรมเนียมของเจ้าของบ้านแล้วเราอาจจะถูกมองแบบแปลกๆได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าวัดเข้าวาของประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่ค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับในเรื่องของการไหว้พระหรือการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาลเจ้าของประเทศนี้หากเราทำถูกต้องตามขนบธรรมเนียมและประเพณีของคนพื้นเมืองที่นี่ก็ไม่มีปัญหาแต่หากทำผิดรูปแบบแล้วอาจจะถูกมองแบบตลกๆก็เป็นได้ อย่างเช่น การไปวัดอาซากุสะที่โด่งดังหากเราเดินทางไปด้วยตัวคนเดียวอาจจะเป็นที่ครหาหากเราปฎิบัติผิดรูปแบบ แต่หากเราเดินทางไปกับบริษัททัวร์แล้วเราก็จะหมดความกังวลเกี่ยวกับการปฎิบัติตัวในการเข้าวัดที่ญี่ปุ่นไปในทันทีโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัดดังๆอย่างอาซากุสะ ซึ่งการมาวัดอาซากุสะในญี่ปุ่นนั้นส่วนใหญ่แล้วผู้คนที่มาจะมากราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดได้แก่ เจ้าแม่กวนอิม ทำมาจากทองสัมฤทธิ์ที่มีขนาดเพียง 5.5 ซม.และยังเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคคันโต อีกทั้งยังมีในส่วนของประตูฟ้าคำรณที่มีโคมไฟขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 4.5 เมตรอยู่ตรงประตูวัด อีกทั้งยังมีในส่วนของเครื่องรางของขลังให้ทางลูกค้าได้เลือกชมสินค้ากันตามความพอใจกันเลยทีเดียว อีกทั้งทางลูกค้ายังสามารถเลือกชมและเลือกถ่ายรูปคู่กับส่วนของโตเกียวสกายทรีได้อีกด้วยซึ่งสถานที่แห่งนี้ถือได้ว่าเป็น Landmark ของญี่ปุ่นแห่งใหม่ในโตเกียวกันเลยทีเดียวซึ่งทางคนที่ไปท่องเที่ยวยังสามารถถ่ายรูปกับสถานที่แห่งนี้ได้จากมุมของวัดแห่งนี้ได้โดยตรงโดยไม่ต้องเดินทางไปถึงโตเกียวสกายทรีเลย เมื่อท่องเที่ยวกันแบบจุใจกับการเก็บภาพแล้วต่อไปก็เป็นเรื่องของปากท้องกันนั่นคือ เรื่องกิน กิน และกิน ในที่นี้มีร้านอาหารดังๆอยู่แถววัดอาซากุสะหลายร้าน แต่ในที่นี้จะขอแนะนำเป็นร้านปลาไหลย่างซึ่งบางท่านอาจจะชื่นชอบในการทานเป็นทุนเดิมอยู่แล้วหรือบางท่านอาจจะอยากลองทานข้าวปลาไหลย่างดูแนะนำเป็นร้านโอยานางิซึ่งเป็นร้านต้นตำรับดั้งเดิมที่มีรายการโทรทัศน์หลายต่อหลายราการมาถ่ายทำอีกทั้งยังมีขาประจำกันอย่างเนืองแน่นซึ่งสูตรเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้มราดปลาไหลย่างนั่นเอง และหลังจากอิ่มกับของคาวแล้วมาต่อด้วยของหวานร้านขนมอาซากุสะอุเมะโซโนะ ซึ่งขึ้นชื่อด้านการทำขนม “อุวะเซ็นไซ” ซึ่งก็คือขนมถั่วแดงนั่นเองนำมาต้มน้ำตาลและราดลงบนขนมโมจิอันเหนียวหนึบให้ความหวานและความนุ่มหนึบไปอีกแบบหนึ่งชนิดที่ว่าทานแล้วจะประทับใจมิรู้ลืมแค่นี้ก็เป็นอันจบกับการเดินทางไปวัดอาซากุสะและยังคงมีความประทับใจในทุกด้านลองมาดู